วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ที่เที่ยวศรีสะเกษ

          เที่ยวศรีสะเกษ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ ดินแดนปราสาทขอมที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ
Image result for ศรีสะเกษ


          จังหวัดศรีสะเกษหรือเมืองขุขันธ์ในสมัยก่อน หนึ่งในจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอย่าง "อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร" อัดแน่นด้วยวัฒนธรรมตั้งแต่สมัยขอม แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และวัดดังสำหรับกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลจำนวนมาก ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเสมอ วันนี้เราเลยแวะไปคัดเอาสถานที่ท่องเที่ยวเด็ด ๆ ของศรีสะเกษมาเป็นทางเลือกให้นักท่องเที่ยวที่สนใจกัน ส่วนจะมีที่เที่ยวไหนห้ามพลาดกันบ้างไปชมกันเลย

ที่เที่ยวศรีสะเกษ

1. อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร

Image result for อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร

          อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อุทยานแห่งชาติลำดับที่ 83 ของไทย ตั้งอยู่บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านภูมิซรอล ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ และด้วยเนื้อกว้างใหญ่กว่า 81,250 ไร่ ทำให้อุทยานแห่งนี้มีพื้นที่ครอบคลุมถึง 2 จังหวัด คืออำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ และอำเภอน้ำขุ่น อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ภายในอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ

ที่เที่ยวศรีสะเกษ

          - ผามออีแดง จุดชมวิวสวย ๆ ที่สามารถมองเห็นวิวธรรมชาติได้สุดสายตายาวไปจนถึงสามารถมองเห็นปราสาทเข้าพระวิหาร

ที่เที่ยวศรีสะเกษ

          - ภาพสลักนูนต่ำบริเวณหน้าผาใต้มออีแดง ซึ่งเป็นภาพเทพ 3 องค์ ขนาดเท่าคนจริง อายุไม่ต่ำกว่า 1,000 ปี

          - สถูปคู่ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าพระธาตุ ทางทิศตะวันตกของผามออีแดง เป็นสถูปหินทราย 2 องค์ ลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ มียอดมนคล้ายตะปูหัวเห็ด ข้างในเป็นโพรงใช้สำหรับบรรจุสิ่งของในสมัยโบราณ

ที่เที่ยวศรีสะเกษ

          - ปราสาทโดนตวล เป็นปราสาทหินแบบขอม สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 15-16 ตั้งอยู่บริเวณบ้านภูมิซรอล ตำบลบึงมะลู อำเภอกันทรลักษ์

          - เขื่อนห้วยขนุน เป็นอ่างเก็บน้ำชลประทาน และเป็นที่ตั้งหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 25 กิโลเมตร ซึ่งบริเวณอ่างเก็บน้ำมีทิวทัศน์ที่สวยงามเหมาะแก่การเที่ยวชมธรรมชาติเป็นอย่างมาก

          - สระตราว หรือห้วยตราว เป็นธารน้ำอยู่ตรงบริเวณลานหินเชิงเขาพระวิหาร มีสายน้ำไหลผ่านถ้ำใต้เพิงหินลงสู่บริเวณที่ลุ่มต่ำ ซึ่งมีแนวหินซ้อนกั้นสายน้ำให้ไหลไปตามต้องการอย่างสวยงาม

          - น้ำตกและถ้ำขุนศรี ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันตกของสระตราวใกล้เส้นทางเดินขึ้นปราสาทเขาพระวิหาร ส่วนถ้ำขุนศรีภายในมีขนาดกว้าง เชื่อกันว่าเป็นที่พักของขุนศรี ขณะมาควบคุมการตัดหินบริเวณสระตราวเพื่อใช้สร้างปราสาทเขาพระวิหาร

          สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาที่อุทยานเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. และต้องเสียงค่าเข้าชม สำหรับชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท, เด็ก 20 บาท ส่วนชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 400 บาท, เด็ก 200 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0 4581 8021, 0 4581 6071, 08 1528 3268 หรือ park.dnp.go.th และอัพเดทข้อมูลได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร - ผามออีแดง

2. วัดป่ามหาเจดีย์แก้ว

Image result for วัดป่ามหาเจดีย์แก้ว

          วัดป่ามหาเจดีย์แก้ว หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อวัดล้านขวด ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านดอน ตำบลโนนสูง อำเภอบุญหาญ ที่มาของชื่อวัดล้านขวดนี้มาจากอาคารต่าง ๆ ภายในวัดตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้า, ลานจอดรถ, โบสถ์, ศาลา, หอระฆัง, กุฏิ รวมไปถึงห้องน้ำภายในวัด ล้วนประดับตกแต่งไปด้วยขวดแก้วหลากหลายสีสันกว่า 1.5 ล้านใบ

          โดยได้แนวความคิดในการออกแบบมาจาก "พระครูวิเวกธรรมาจารย์" หรือ "หลวงปู่ลอด" ที่ได้เดินธุดงค์มาปักกลดภายในพื้นที่ป่าช้าหนองใหญ่ (ที่ตั้งของวัดในปัจจุบัน) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้บ่อขยะที่เต็มไปด้วยขวดแก้วจำนวนมาก ท่านจึงเห็นว่าควรนำขวดที่สีสันเหล่านี้มาทำให้เกิดประโยชน์ด้วยการนำไปตกแต่งอาคารภายในวัด นอกจากจะเป็นการกำจัดขยะแล้วยังประหยัดงบประมาณในการก่อสร้าง

          ต่อมาเมื่อวัดล้านขวดเป็นที่รู้จักมากขึ้นจึงมีชาวบ้านจากจังหวัดศรีสะเกษ หรือจังหวัดใกล้เคียงนำขวดมาบริจาคจนมีอาคารต่าง ๆ   ถูกทยอยสร้างมากขึ้น จนกลายเป็นวัดดังและมีชื่อเสียงประจำจังหวัดศรีสะเกษดังเช่นในปัจจุบัน

3. วัดมหาพุทธาราม

Image result for วัดมหาพุทธาราม

          วัดเก่าแก่ที่ก่อตั้งมาก่อนเมืองศรีสะเกษ โดยเดิมเรียกว่า "วัดป่าแดง" ตั้งอยู่ใจกลางเมืองศรีสะเกษ โดดเด่นด้วยวิหารที่ประดิษฐานพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง คือ "หลวงพ่อโต" เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ปางมารวิชัย มีความสูงจากฐานถึงยอดเกศ 6.85 เมตร หน้าตักกว้าง 3.50 เมตร เดิมเป็นพระพุทธรูปศิลาจำหลัก สันนิษฐานว่าเป็นพระพุทธรูปสมัยขอมและมีอายุร่วมกว่าพันปี ซึ่งภายหลังได้ถือเอาพระพุทธรูปโบราณศักดิ์สิทธิ์เป็นสำคัญ จึงได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น "วัดพระโต" ตามลักษณะของพระพุทธรูป

          จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2494 ได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "วัดมหาพุทธาราม" และได้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างมาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดศรีสะเกษอีกด้วย

4. วัดพระธาตุสุพรรณหงส์

Image result for วัดพระธาตุสุพรรณหงส์

          วัดพระธาตุสุพรรณหงส์ หรือวัดบ้านหว้าน ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านหว้าน ตำบลน้ำคำ อำเภอเมือง ตั้งอยู่ห่างจาก อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 10 กิโลเมตร อีกหนึ่งวัดสวยที่ห้ามพลาดเมื่อเดินทางไปยังจังหวัดศรีสะเกษ ด้วยความโดดเด่นของพระอุโบสถที่ก่อสร้างบนเรือสุพรรณหงส์จำลอง ลอยอยู่กลางน้ำอย่างสวยงามแปลกตา ตัวพระอุโบสถกว้าง 5 เมตร ยาว 13.60 เมตร หลังคาทรงจัตุรมุข 3 ชั้น มียอดมณฑปกลางอุโบสถ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และด้วยความสวยงามโดดเด่นของวัดแห่งนี้จึงทำให้เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม

5. น้ำตกวังใหญ่

Image result for น้ำตกวังใหญ่

น้ำตกวังใหญ่ ตั้งอยู่เขตหมู่บ้านก่อ หมู่ 7 ตำบลละลาย อำเภอกันทรลักษ์ ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก อีกหนึ่งน้ำตกที่มีความสวยงาม รอบ ๆ บริเวณเต็มไปด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติ ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีลำธารไหลมาจากเทือกเขาพนมดงรัก มีความสูงประมาณ 5 เมตร สามารถลงเล่นน้ำได้ตลอดแนวน้ำตก แถมบริเวณโดยรอบยังเต็มไปด้วยพืชสมุนไพรมากมายให้ผู้สนใจได้ศึกษา ซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 1,000 ชนิด ส่วนฤดูท่องเที่ยวที่เหมาะสมคือฤดูฝนและฤดูหนาว

6. น้ำตกสำโรงเกียรติ

Image result for น้ำตกสำโรงเกียรติ

         น้ำตกสำโรงเกียรติ เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงของจังหวัดศรีสะเกษ ตั้งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ  81 กิโลเมตร ภายในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าพนมดงรัก หมู่บ้านสำโรงเกียรติ ตำบลบักดอง อำเภอขุนหาญ ชื่อเดิมของหนึ่งตกแห่งนี้ออกจะน่ากลัวนิด ๆ กับ "น้ำตกปีศาจ" ซึ่งเป็นชื่อที่ตั้งตามหน่วยทหารพรานชื่อ "หน่วยปีศาจ" ที่ได้ใช้บริเวณน้ำตกตั้งเป็นฐานที่ตั้งหน่วยปฏิบัติการ จากนั้นในปี พ.ศ. 2549 ได้มีการปรับปรุงพื้นที่ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวพร้อมเปลี่ยนชื่อน้ำตกตามชื่อหมู่บ้านว่า "น้ำตกสำโรงเกียรติ" ในปัจจุบัน

          ลักษณะเด่นของน้ำตกแห่งนี้คือเป็นน้ำตกขนาดกลางที่ไหลจากหน้าผาสูงกว่า 8 เมตร กระจายตัวเป็นม่านน้ำอย่างสวยงาม ส่วนด้านบนของน้ำตกจะเป็นธารน้ำที่ไหลไปตามลานหินท่ามกลางต้นไม้น้อยใหญ่ เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาพักผ่อนในบรรยากาศเย็น ๆ โดยช่วงเวลาสำหรับมาเที่ยวมากที่สุดคือตั้งแต่เดือนกันยายน-กุมภาพันธ์ของทุกปี เปิดให้เข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่ เวลา 08.30-16.30 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ 0 4451 4447

7. ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ศรีสะเกษ อควาเรียม

Image result for ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ศรีสะเกษ อควาเรียม

         ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ศรีสะเกษ อควาเรียม (Sisaket Aquarium) แหล่งท่องเที่ยวและเรียนรู้สำคัญสำหรับเยาวชน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่สนใจ ตั้งอยู่ภายในสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา (เกาะห้วยน้ำคำ) ในท้องที่ตำบลหนองครก อำเภอเมือง อีกทั้งยังเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำแห่งแรกในภาคอีสานตอนใต้ด้วย
         ภายในอาคารมีการจัดแบ่งโซนเรียนรู้ต่าง ๆ ทั้งโซนปลาทะเล, ปลาน้ำจืด และปลาสวยงามด้วยพันธุ์ปลากว่า 100 ชนิด จัดอยู่ในตู้ปลาตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงตู้ปลาขนาดจอภาพยนตร์ โดยแต่ละตู้จะมีคำอธิบายเกี่ยวกับปลาชนิดนั้น ๆ ไว้ให้อ่านให้ได้ความรู้ และเพลิดเพลินไปกับการชมปลาแหวกว่ายอยู่ภายในตู้ ส่วนไฮไลท์หลักที่ได้รับความสนใจคืออุโมงค์แก้วใต้น้ำ ระยะทาง 24 เมตรที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเข้าไปสัมผัสความสวยงามของปลาอย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังมีการแสดงโชว์ดำน้ำและให้อาหารปลาจากเจ้าหน้าที่ในเวลา 14.00 น. ของทุกวันอีกด้วย
          นอกจากนี้ยังมีบริการ "สปาปลา" ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส และบริการมุมของที่ระลึกให้ได้เลือกอุดหนุนก่อนกลับบ้านอีกด้วย โดยศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ศรีสะเกษ อควาเรียม เปิดบริการทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10.00-16.00 น.

8. ปราสาทวัดสระกำแพงใหญ่

Image result for ปราสาทวัดสระกำแพงใหญ่

          ตั้งอยู่ภายในวัดสระกำแพงใหญ่ อำเภออุทุมพรพิสัย มีลักษณะโดดเด่นด้วยปราสาทขอมขนาดใหญ่และสมบูรณ์ที่สุด สร้างขึ้นในสมัยบาปวน-บายน ในพุทธศตวรรษที่ 16 เพื่อเป็นเทวาลัยถวายพระศิวะตามความเชื่อของศาสนาฮินดู มีลักษณะเป็นพระปรางค์ 3 องค์ ตั้งเรียงกันในแนวทิศเหนือ-ใต้ หันหน้าไปทางด้านทิศตะวันออก ปรางค์ประธานตั้งอยู่ตรงกลางก่อสร้างด้วยหินทราย มีอิฐแซมบางส่วน บริเวณส่วนบนมีทับหลังจำหลักภาพพระอินทร์ทรงช้างบนแท่นเหนือหน้ากาล ส่วนปรางค์อีก 2 องค์ สร้างด้วยอิฐ มีส่วนประกอบตกแต่งที่เป็นหินทราย
          โดยสิ่งก่อสร้างทั้งหมดถูกล้อมรอบด้วยระเบียงคดรูปสี่เหลี่ยม ผืนผ้าก่อด้วยศิลาแลง และศิลาทราย กว้าง 54 เมตร ยาว 62 เมตร มีโคปุระ หรือซุ้มประตู ทั้ง 4 ทิศ ซึ่งปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงมาเป็น วัดในพุทธศาสนาลัทธิมหายาน โดยปราสาทวัดสระกำแพงใหญ่เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.30-16.30

9. ปราสาทบ้านปราสาท (ปราสาทห้วยทับทัน หรือปราสาทบ้านโนนธาตุ) 

Image result for ปราสาทบ้านปราสาท (ปราสาทห้วยทับทัน หรือปราสาทบ้านโนนธาตุ)

         ตั้งอยู่ภายในวัดปราสาทพนาราม หมู่บ้านปราสาท ตำบลปราสาท อำเภอห้วยทับทัน สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 16 เพื่อใช้เป็นสถานที่ประดิษฐาน "เทพเจ้าตีมูรติ" ตามความชื่อในศาสนาพราหมณ์ มีลักษณะที่โดดเด่นด้วยศิลปะร่วมแบบคลัง-ปาปวน อันประกอบไปด้วยปรางค์อิฐ 3 องค์ ตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงเดียวกัน เรียงตัวในแนวทิศเหนือ-ใต้ ส่วนหน้าหันไปทางทิศตะวันออก บริเวณโดยรอบของปราสาทเต็มไปด้วยศิลาแลงล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน และมีโคปุระ (ซุ้มประตู) อยู่ทางทิศใต้และทิศตะวันออก
          ภายในปรางค์องค์กลาง มีขนาดใหญ่กว่าพระปรางค์อีก 2 องค์เล็กน้อย ลักษณะของปรางค์เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสย่อมุมไม้สิบสอง มีประตูทางเข้าด้านทิศตะวันออกเพียงด้านเดียว มีกรอบประตูหินทรายและมีทับหลังเป็นภาพบุคคลยืนอยู่เหนือหน้ากาล ส่วนพระปรางค์ 2 องค์ที่ขนาบข้างสร้างขึ้นภายในหลังและได้รับการดัดแปลงรูปแบบไปมาก มีลักษณะโดดเด่นด้วยประตูที่ก่ออิฐปิดตายทั้งสี่ด้าน แต่ยังปรากฏกรอบประตูหินทรายและชิ้นส่วนทับหลัง สลักภาพการกวนเกษียรสมุทรตกอยู่หน้าประตูปรางค์องค์ที่อยู่ด้านทิศใต้
          นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่าหากชาวบ้านหรือนักท่องเที่ยวที่ได้เดินทางเข้ามากราบไหว้ หรือบนบานศาลกล่าวจะสมความปรารถนาทุกประการ และในช่วงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี ก็มีการจัดงานประเพณีไหว้พระธาตุอีกด้วยสาทบ้านปราสาท (ปราสาทห้วยทับทัน)

10. หอคอยศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติ

Image result for 10. หอคอยศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติ

        หอคอยศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติ หอคอยสูงสำหรับชมวิวสวยของตัวเมืองศรีสะเกษ ตั้งอยู่บริเวณเกาะกลางน้ำซึ่งเป็นที่ตั้งของเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ถนนขุขันธ์ ตำบลเมืองใต้ อำเภอเมือง เปิดให้เข้าชมทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-16.00 น. โดยเสียค่าบำรุงสถานที่ ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 20 บาท ส่วนผู้ที่ต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะ กรุณาทำหนังสือส่งถึงนายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษล่วงหน้าก่อนเข้าชม
          ทั้งนี้สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลเมืองศรีสะเกษ โทรศัพท์ 045620211-4 หรือ เฟซบุ๊ก เทศบาลเมือง ศรีสะเกษ
          หมายเหตุ : เด็กที่มีส่วนสูงไม่เกิน 100 เซนติเมตร, ผู้สูงอายุวัย 60 ปีขึ้นไป, ผู้พิการ เข้าชมฟรี !! และพระภิกษุ-สามเณร เข้าชมฟรี !! ในวันพระเท่านั้น


อ้างอิง

https://travel.kapook.com/view156426.html












ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น